bulibuli.work
Eberhard จึงหารถสปอร์ตในตลาดดู และก็สะดุดเข้ากับ Lotus Elise ของค่ายรถเก่าแก่สัญชาติอังกฤษเข้า Lotus Elise ทั้งคู่จึงคิดว่าการจะออกแบบรถจาก 0 เป็นอะไรที่ยากมากแน่ๆ จึงต้องใช้ทางลัดช่วยด้วยการติดต่อไปที่ Lotus เพื่อขอซื้อลิขสิทธิ์โครงรถของ Lotus Elise นำมาใส่เครื่องยนต์ไฟฟ้าเสียเลย และเมื่อทาง Lotus ตอบตกลงทั้งคู่ก็ก็ได้วางสเป็กให้กับรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของค่าย และตั้งชื่อว่า Tesla Roadster เริ่มคุ้นหูกันหรือยังครับ!? สเป็กของ Tesla Roadster ที่ถูกวางเอาไว้ก่อนการผลิต Tesla Roadster เริ่มการผลิตในปี 2004 และปัญหาก็เริ่มเกิดขึ้น เนื่องจากทั้งคู่เริ่มงบหมด พวกเขามาถึงจุดที่ว่า ไม่สามารถผลิตรถยนต์ออกมาวิ่งได้จริงๆ แม้จะมีลิขสิทธิ์โครงสร้างรถ และบริษัทด้านแบตเตอรี่อยู่ในมือก็ตาม ถึงตอนนี้พวกเขาไม่รู้ว่าจะหาเงินจากไหนมาสานต่อ ลูกค้าก็ยังไม่มี รถก็ยังไม่เสร็จเป็นรูปเป็นร่าง แล้วใครจะมาสนใจเอาเงินมาทุ่มกับบริษัทนี้ล่ะ!? พวกเขาจึงต้องหาคนลงทุนเงินจำนวนมหาศาล ซึ่งตอนนี้เองที่ Elon Musk เข้ามามีส่วนกับเรื่องนี้ Elon Musk (ที่เพิ่งขาย PayPal ด้วยมูลค่ามหาศาลไปหมาดๆ) ได้มีโอกาสพูดคุยแนวทางของ Tesla กับสองคู่หู Eberhard และ Tarpenning ปรากฏว่า Elon ถูกใจกับแนวคิดที่จะทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและทิศทางของ Tesla เข้าอย่างจัง เขาจึงควักเงินลงทุนให้ Tesla Motors ไปถึง 7.
ที่มา: businessinsider, Business Casual, tesla, britannica คิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้...
Vision of Nikola Tesla ทั้งยังมีการบริจาคอีก 33, 333 เหรียญสหรัฐ โดยผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ ในเครือของค่ายหนังโอลิมปัส ที่ได้สร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับ ชีวิตของ Tesla เรื่องวิสัยทัศน์ของ Nikola Tesla จำนวนเงินรวมแล้วในตอนนั้นอยู่ที่ 873, 169 เหรียญสหรัฐ และยังมีผู้บริจาคอย่างต่อเนื่องทำให้เกินกว่าเป้าหมายเดิมไป มากกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยใช้เวลาเพียง 9 วัน จึงประกาศขอหยุดรับบริจาคเพราะเกินกว่าเป้าหมายแล้ว จากเดิมที่กำหนดเป้าหมายการระดมทุนขอรับบริจาคไว้ที่ 45 วัน ในที่สุดยอดเงินรวมทั้งของผู้บริจาคผ่านทางเว็ปไซด์รวมกับ เงินสมทบจากรัฐนิวยอร์กรวมแล้วกว่า 2, 100, 000 เหรียญสหรัฐ. เรียบเรียง/ที่มา พื้นที่ทางศาสนามีการสร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมดที่บ้านเกิดของ Tesla โบสถ์ทำพิธีทางศาสนา ที่ปู่กับพ่อของ Tesla เคยทำหน้าที่ผู้สอนศาสนา ใน Smiljan ประเทศ Croatia บ้านทั้งสองหลังนี้ถูกทำลายและไฟไหม้จนหมดสิ้น ระหว่างสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และสงครามกอบกู้เอกราชของชาวโครเอเชีย ตอนนี้ รัฐบาลโครเอเชียได้สร้างขึ้นมาใหม่แล้ว 2. ) สิ่งประดิษฐ์ของ Tesla มีการแบ่งมรดก ในปี 1943 เมื่อ Tesla เสียชีวิตลง สำนักงานทรัพย์สินคนต่างด้าว ได้เข้ามาดูแลทรัพย์สินของ Tesla สิ่งประดิษฐ์ส่วนมากมอบให้กับครอบครัวของเขา สิ่งประดิษฐ์หลายชิ้นถูกนำไปแสดงที่พิพิธภัณฑ์ Tesla ในกรุงเบลเกรด แต่เอกสาร Tesla หลายฉบับยังอยู่ในการครอบครองของรัฐบาลสหรัฐ Nikola Tesla นั่งอยู่ในห้องปฏิบัติการ แสดงการเหนี่ยวนำของกระแสไฟฟ้า จากขดลวดเหนี่ยวนำ Cr:.
Jane Alcorn ประธาน Tesla Science Center/Museum Cr: ความลับชีวิตส่วนตัวของ Tesla ได้นำเสนอโดย Jane Alcorn ประธาน Tesla Science Center Matthew Inman ผู้สร้างการ์ตูนยอดนิยม Oatmeal ข้าวโอ๊ต Cr:. 1. )
. Nikola Tesla เป็นวิศวกรไฟฟ้า นักประดิษฐ์ และเป็นหนึ่งในนักฟิสิกส์ที่โดดเด่นที่สุด รวมทั้งยังเป็นตำนานของนักวิทยาศาสตร์ นอกเหนือจากผลงานที่ยอดเยี่ยมแล้ว ยังมีอีกบางแง่มุมชีวิตส่วนตัวของ Tesla ที่ปกปิดซ่อนเร้นไว้จากหน้าประวัติศาสตร์.
3 พันล้าน $ ทำให้เขาเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุด 68 ในสหรัฐอเมริกา อีลอน มัสค์ (Elon Musk) ได้กล่าวว่าเป้าหมายของ SolarCity, เทสลามอเตอร์เป็นวิสัยทัศน์ของเขาในการเปลี่ยนแปลงของโลกและมนุษยชาติ เป้าหมายของเขารวมถึงการลดมลภาวะโลก
ปัจจุบันโรงงานของ Lucid มีกำลังที่จะผลิตรถได้ประมาณเพียง 30, 000 คันต่อปีสำหรับ Lucid Air ล้วน ๆ ซึ่งเป็นรถแบบพรีเมียมเท่านั้น ซึ่งค่อนข้างมากเลยเมื่อเทียบกับ Tesla ที่ส่งมอบ Model S ไปราว 18, 000 คัน ทาง Lucid บอกว่าบริษัท วางแผนไว้จะสามารถขยายกำลังการผลิตไปได้ถึง 400, 000 คันต่อปี เพราะบริษัทกำลังมองไปที่ตลาดรถราคาประหยัดแบบ Tesla Model 3 อยู่เช่นกัน ซึ่งตรงนี้จะเผยพลังที่แท้จริงของ LEAP มาให้เห็น 11. ส่วนเรื่อง Autonomous Lucid มีการช่วยการขับขี่ที่ชื่อว่า Lucid DreamDrive โดยใส่ LiDAR และเซนเซอร์อื่น ๆ เข้ามาประมาณ 32 ตัวที่เป็นมาตรฐานของ Lucid Air ซึ่งทางบริษัทคิดว่าเพียงพอต่อการพัฒนาระบบต่าง ๆ เพิ่มเติมในอนาคต ซึ่งน่าจะหมายถึง Autonomous Level 5 นั่นเอง 12. จะมีส่วนที่บริษัทยังตาม Tesla ไม่ทันตอนนี้ ก็คือเรื่อง Autonomous เพราะ Tesla มีการเก็บข้อมูลไปหลายพันล้านกิโลเมตรแล้ว แต่ Lucid ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น โดยบริษัทก็ใช้เงินแก้ปัญหา ดึง Eugene Lee ที่เคยดูแลส่วนการพัฒนา Algorithm ที่ชื่อว่าโปรเจค Super Cruise ของ General Motors มาร่วมทีม ซึ่งโปรเจคนี้เรียกได้ว่าเป็นราชาในระบบช่วยขับหรือ ADAS เลยก็ว่าได้ และนาย Lee คนเดิม ก็เคยเป็นหัวหน้าหน่วย Autonomous Vehicle Development Center ของ Hyundai ซึ่งวางแนวทาง 10 ปีในการพัฒนาระบบ ADAS 13.