bulibuli.work
อาการเวียนศีรษะบ้านหมุน หรืออาการบ้านหมุน คือความรู้สึกว่าสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัวเรามีการเคลื่อนไหว หรือ ความรู้สึกว่าตัวเองหมุนไปทั้งที่อยู่เฉย ๆ เช่น เห็นเพดานเคลื่อน ผ้าม่านไหล หรือรู้สึกโคลงเคลง โยกเยก สูญเสียการทรงตัว มักมีอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน อาจประกอบกับการเสียการได้ยิน หูอื้อ มีเสียงดังในหู หรือการเคลื่อนไหวผิดปกติของลูกตา(ตากระตุก) บ้านหมุนถือเป็นโรคที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่? อาการบ้านหมุนไม่ได้เกิดจากสาเหตุโรคร้ายแรง ส่วนใหญ่เป็นแบบชั่วคราวและมักจะเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน แต่มักไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด บางคนเป็นไม่กี่ชั่วโมง บางคนเป็นอยู่หลายๆ วันหรือเป็นๆ หายๆ เมื่อเกิดอาการขึ้น ท่านควรสังเกตอาการ พฤติกรรมและช่วงเวลาที่เป็น เพื่อช่วยให้แพทย์วิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริงได้ง่ายขึ้น บ้านหมุนเกิดขึ้นได้อย่างไร?
อาการเวียนศีรษะบ้านหมุน สาเหตุ การวินิจฉัย และวิธีการรักษาแบบต่างๆ เผยแพร่ครั้งแรก 23 มี. ค. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 ธ. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 4 เม. ย. 2019 เวลาอ่านประมาณ 6 นาที เกี่ยวกับอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน เวียนศีรษะบ้านหมุน (Vertigo) เป็นอาการที่ทำให้คุณเกิดความรู้สึกเหมือนรอบ ๆ ร่างกายของคุณขยับหรือหมุนอยู่ อาการนี้มักจะเกิดขึ้นจนสังเกตแทบไม่ได้ หรืออาจจะมีความรุนแรงจนทำให้ยืนไม่ติดพื้นก็ได้ การกำเริบของอาการนี้สามารถเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันและคงอยู่นานไม่กี่วินาที หรืออาจจะเกิดขึ้นต่อเนื่องนานกว่านั้นก็ได้ ซึ่งจะทำให้การใช้ชีวิตของคุณเป็นไปได้ยากขึ้น แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ สั่งยา ปรึกษาข้อมูลเบื้องต้น จากร้านยาใกล้บ้านคุณได้ง่ายๆ เริ่มจากแชทกับเภสัชกรที่มีใบอนุญาตผ่านแอปของเรา ฟรี! บริการทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 3 ทุ่ม กด อาการเวียนศีรษะบ้านหมุน อาการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนมีดังนี้: คงสมดุลร่างกายไม่ได้: ทำให้คุณเดินหรือยืนลำบาก รู้สึก คลื่นไส้ หรืออาเจียน วิงเวียน สาเหตุของอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน?
Home > 'บ้านหมุน' #อาการที่วัยทำงานเป็นอยู่บ่อยๆ 'บ้านหมุน' #อาการที่วัยทำงานเป็นอยู่บ่อยๆ เกิดจากการทำงานหนัก พักผ่อนน้อย ทำให้ตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุด เนื่องจากภายในหูชั้นใน มีอวัยวะรูปร่างคล้ายก้นหอย คอยควบคุมเกี่ยวกับการทรงตัวและการได้ยิน ซึ่งมีของเหลวและตะกอนหินปูนเคลื่อนไปมา เมื่อมีสาเหตุให้ตะกอนหินปูนหลุดไปจากที่อยู่ปกติ ซึ่งอาจเกิดจาก อุบัติเหตุบริเวณศีรษะ การเคลื่อนไหวศีรษะซ้ำๆ เช่น การทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ ต้องก้มๆ เงยๆ บ่อย จะทำให้ตะกอนหินปูนดังกล่าวหลุด และส่งสัญญาณไปยังระบบประสาทส่วนกลาง และกระตุ้นให้เกิดอาการเวียนศีรษะแบบหมุนขึ้นมาได้ สังเกตตัวเองด่วน! คุณมีอาการแบบนี้อยู่บ่อยๆ หรือเปล่า? – วิงเวียนศีรษะ ไม่ควรหันหน้า ก้มหน้า เงยหน้า – หูอื้อ มีเสียงในหู ควรรีบพบแพทย์ – ทรงตัวลำบาก ให้นอนหงาย หลับตา – หน้ามืด ไม่ควรฝืนเดิน เพราะอาจล้มได้ – อาเจียน ควรงดทานอาหารทันที อย่างไรก็ตาม อาการบ้านหมุน อาจเกิดได้จากสาเหตุอื่นๆ หากท่านมีอาการบ้านหมุนอยู่เป็นประจำ ควรเข้ามาพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย และทำการรักษาอย่างทันท่วงที แชร์บทความ ข้อมูลสุขภาพ สูงอายุ
โรคเกี่ยวกับระบบประสาท และสมอง การทำงานที่ผิดปกติของระบบประสาท และสมอง ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการบ้านหมุนได้ ซึ่งโรคเหล่านี้ไม่ได้แค่เพียงทำให้เวียนศีรษะ แต่ยังส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ โดยสาเหตุที่เกิดจากระบบประสาทประกอบด้วยโรคเส้นประสาทการทรงตัวอักเสบ เนื้องอกที่ประสาทการทรงตัว โรคของระบบประสาทส่วนกลาง ภาวะขาดเลือดของระบบประสาทส่วนกลาง ความเสื่อมของระบบประสาทส่วนกลางที่ทำหน้าที่ในการทรงตัว และการติดเชื้อที่ระบบประสาท เป็นต้น 3.
25% ของผู้ป่วยมักไม่ทราบสาเหตุ หรือหาสาเหตุไม่พบ ดังนั้น การตรวจเพื่อค้นหาสาเหตุของโรคจึงเป็นทางออกที่สำคัญในการป้องกันหรือบรรเทาอาการที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต วิธีการวินิจฉัยหาสาเหตุ แพทย์จะอาศัยการซักประวัติ, การตรวจร่างกายทางตา หู คอ จมูก, การตรวจเส้นประสาทสมอง และระบบประสาทกลาง, การวัดความดันโลหิต, การเจาะเลือด, การตรวจการได้ยิน, การตรวจคลื่นสมอง, การตรวจระบบประสาททรงตัว, การถ่ายภาพรังสี เช่นเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง (CT scan) หรือเอ็กซเรย์สนามแม่เหล็ก (MRI) เป็นต้น บ้านหมุนมีวิธีการรักษาได้อย่างไร?
นอนพัก และหลับตา เพื่อให้ร่างกายได้ปรับสมดุลอย่างเต็มที่ 2. หยุดทำกิจกรรมทุกอย่างโดยทันที เพราะอาการนี้ถึงแม้จะไม่อันตราย แต่ก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน 3. ดื่มน้ำอุ่น ๆ การดื่มน้ำจะช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ และช่วยไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ เพราะหากร่างกายขาดน้ำแล้วจะยิ่งทำให้เวียนศีรษะยิ่งกว่าเดิม 4.