bulibuli.work
บทความ-ข่าวสาร จาก Best IDC. 2018-12-13 11:10:41 by Admin IP Address (Internet Protocol Address) คือ ป้ายตัวเลขที่กำหนดให้กับอุปกรณ์แต่ละเครื่องที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ที่ใช้โปรโตคอลอินเทอร์เน็ตเพื่อการติดต่อสื่อสาร IP Address ทำหน้าที่สองหน้าที่หลัก: เชื่อมต่อเครือข่าย และ บอกตำแหน่งที่อยู่ IPv4 มีขนาด 32 บิตซึ่ง จำกัดพื้นที่แอดเดรสไว้ที่4 กลุ่ม เช่น 294 967 296 (2 32) จำนวนนี้มีที่อยู่บางแห่งที่สงวนไว้สำหรับจุดประสงค์พิเศษเช่นเครือข่ายส่วนตัว (~ 18 ล้านที่อยู่) และที่อยู่แบบหลายผู้รับ (~ 270 ล้านที่อยู่) IPv4 ที่มักจะแสดงในสัญกรณ์ดอททศนิยมประกอบด้วยสี่ตัวเลขทศนิยมแต่ละตั้งแต่ 0 ถึง 255 คั่นด้วยจุดเช่น172. 16. 254. 1 แต่ละส่วนจะแสดงกลุ่มของ 8 บิต (หนึ่งoctet) ของที่อยู่ ในบางกรณีของการเขียนทางเทคนิค IPv4 ที่อาจจะนำเสนอในหลายฐานสิบหก, ฐานแปดหรือไบนารีการแสดง Historical classful network architecture Class Leading bits ขนาดของฟิลด์ network (bit) ขนาดของฟิลด์(บิต) จำนวน เครือข่าย จำนวนที่อยู่ ต่อเครือข่าย ip เริ่มต้น ip สิ้นสุด A 0 8 24 128 (2 7) 16777216 (2 24) 0. 0. 0 127. 255.
หลายๆคนพลาดไปแล้ว โดนเหงื่อ โดนน้ำ ลืมไว้ในกระเป๋ากางเกง ลงเครื่องซักไปแล้ว โดนฝน หรืออะไรก็ตามแต่ จนอุปกรณ์ของคุณเปียกชุ่ม!! ทำยังไงดี 1. "ห้าม"ทดลองเปิดดูหน่อยว่าเปิดติดไหม "โดยเด็ดขาด" เอาจริงๆแล้วอุปกรณ์ไฟฟ้าจะไม่พังหากไม่มีกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่าน ดังนั้นวินาทีที่มันพัง ก็คือตอนที่คุณทดลองเปิดเครื่องดูหน่อย นั่นละครับ ไฟฟ้าเข้า เครื่องก็พังทันที 2. รีบทำให้แห้งให้ไวที่สุด หากทำตกน้ำ ให้รีบเอาผ้าสะอาดเช็ดให้แห้งที่สุด ทุกซอกทุกมุมโดยไว แล้วทำตามข้อที่3 3. ดูดความชิ้นออก ดูดความชื้นสามารถทำได้หลายวิธีตามสะดวกดังนี้ 3. 1 ตากแดดให้แห้งสนิท พลิกหน้า พลิกหลัง ตากแดด ให้เต็มที่จนมั่นใจว่าแห้งสนิทจริงๆ แต่ก็อย่าตากจนลืม แล้วโดนฝนตกหละ (ฮา) *จริงๆโดยส่วนตัวแล้ว ไม่ค่อยแนะนำวิธีนี้นะ ผมคิดว่าวิธีข้อ 3. 2 และ 3. 3 จะดีกว่า 3. 2ใส่อุปกรณ์ลงไปในในถุงที่มีข้าวสารอยู่ แล้วมัดทิ้งไว้ 1-2 สัปดาห์ ข้าวจะทำการดูดความชิ้นจากมือถือ *ข้าวที่นำมาดูดความชิ้นมือถือ ไม่ควรนำมากินนะ เพราะอาจจะมีไอระเหยจากอุปกรณ์อิเล็คโทรนิกส์ เป็นอันตรายได้ 3. 3 หาซองดูดความชิ้น ที่ใช้กับกล้อง หรือ ในห่อขนม (ควรทำความสะอาดก่อน) มาหลายๆห่อ แล้วมัดรวมไว้ในถุง เก็บให้มิดชิด ก่อนส่งท้ายก่อนเรามาดูตัวอย่างว่าน้ำทำร้ายต่ออุปกรณ์ของคุณยังไงบ้าง?
255 จะมีจำนวนเครือข่ายขนาด 2M+ เน็ตเวิร์ค และเครื่องลูกข่ายในแต่ละเครือข่ายได้ประมาณ 254 เครื่อง ตัวอย่างเช่น ค่า IP Address ของ Class C เป็น 202. 10. 5 หมายถึง หมายเลขเครือข่าย 202. 10 หมายเลขเครื่อง 5 Class D:เป็นการสำรองหมายเลข IP Address ช่วง 224. 0-239. 255 สำหรับการส่งข้อมูลแบบ Multicast ซึ่งจะไม่มีการแจกจ่ายใช้งานทั่วไปสำหรับบุคคลทั่วไป Class E: เป็นการสำรองหมายเลข IP Address ช่วง 240. 0-255. 255 สำหรับการทดสอบ และพัฒนา IPv4 คืออะไร IPv4 ( ไอพีวี 4) คืออะไร IPv4 ( ไอพีวี 4) คือ หมายเลข IP Address (ไอพี แอดเดรส)มีขนาด 32 บิท IPv4 ย่อมาจาก " Internet Protocol Version 4 ถูกแบ่งออกเป็น 4 ชุดด้วยเครื่องหมายจุด โดยแต่ละชุดมีขนาด 8 บิท หมายเลขไอพี เป็นรหัสประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้ในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆในระบบเครือข่าย IPv4 จะเป็นหมายเลขที่มีทั้งหมด 32 บิต (แต่ละช่วงเว้นวรรคจุด. ) แบ่งเป็นช่วงละ 8 บิต โดยตัวเลข 8 นี้ก็จะมีค่าตั้งแต่ 0 - 255 ดังนั้น IPv4 จึงมีหมายเลขได้ตั่งแต่ 0. 0 ถึง 255. 255 แต่ก็ใช่ว่าทุกตัวจะใช้ได้หมด เพราะจะมีบางหมายเลขที่ถูกเก็บไว้ใช้งานเฉพาะ การแบ่ง IP address การแบ่งคลาสของ IPv4 เพื่อจุดประสงค์ในการใช้งานที่ต่างกันไป - คลาส A เริ่มตั้งแต่ 1.
0. 0 - 127. 255. 255 (7 Bits, โดยอีก 1 Bit สงวนไว้สำหรับเลข 0) เหมาะสำหรับเครือข่ายหรือองค์กรขนาดใหญ่ มีผู้ใช้งาน (Host Computer) เป็นจำนวนมาก Class A Network address (7 Bits): 2⁷ = 128 หมายเลข มีตัวเลขตั้งแต่ 128. 0 - 191. 255 (14 Bits, โดยอีก 2 Bits สงวนไว้สำหรับเลข 10) เหมาะสำหรับเครือข่ายหรือองค์กรขนาดกลาง Class B Network address (14 Bits): 2¹⁴ = 16, 384 หมายเลข มีตัวเลขตั้งแต่ 192. 0 - 223. 255 (21 Bits, โดยอีก 3 Bits สงวนไว้สำหรับเลข 110) เหมาะสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้เองภายในเครือข่ายหรือองค์กร Class C Network address (21 Bits): 2²¹ = 2, 097, 152 หมายเลข มีตัวเลขตั้งแต่ 0. 0 - 127. 255 Class A Host address (24 Bits): 2²⁴ = 16, 777, 216 หมายเลข มีตัวเลขตั้งแต่ 128. 0 - 191. 255 Class B Host address (16 Bits): 2¹⁶ = 65, 536 หมายเลข มีตัวเลขตั้งแต่ 192. 0 - 223. 255 Class C Host address (8 Bits): 2⁸ = 256 หมายเลข เพิ่มเติม Class D มีตัวเลขตั้งแต่ 224. 0 - 239. 255 เป็น class ที่ถูกสงวนไว้สำหรับการใช้งานแบบ Multicasting Class E มีตัวเลขตั้งแต่ 240. 0 - 247. 255 เป็น class ที่ถูกสงวนไว้สำหรับการวิจัยทดลอง (Research purpose) จะไม่ถูกใช้งานโดยทั่วไป นอกจากนี้ ยังมีการแบ่งหมายเลข IP Address ออกเป็น 2 เป้าหมายการใช้งาน คือ และ ซึ่งผู้อ่านสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ Private and Public IP Address หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อย อย่าลืมกดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ 🙏
3 พันล้านที่อยู่ ตัวอย่างของที่อยู่ IPv4 คือ:
168. 1. 100 นี่คือรูปแบบของเลขฐานสิบ ถ้าหากเขียนให้อยู่ในรูปแบบของเลขฐานสองก็จะเท่ากับ 11000000. 10101000. 00000001. 01100100 IP Address ที่อยู่ในรูปแบบของเลขฐานสิบจะมีเลขที่เป็นไปได้ทั้งหมด 10 ตัวคือ 0-9 เลขฐานสิบจะทำให้มนุษย์อย่างเราๆสามารถจดจำและนำ IP Address ไปใช้งานได้ง่าย IP Address ที่อยู่ในรูปแบบของเลขฐานสองจะมีเลขที่เป็นไปได้ทั้งหมด 2 ตัว คือ 0-1 เลขฐานสองระบบคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ Network จะนำไปใช้งานในการประมวลผล ยกตัวอย่าง IP Address เบอร์ 192. 100 เลขฐานสิบชุดแรกคือ "192" สามารถเขียนเป็นเลขฐานสองได้เท่ากับ "11000000" เลขฐานสิบชุดที่สองคือ "168" สามารถเขียนเป็นเลขฐานสองได้เท่ากับ "10101000" เลขฐานสิบชุดที่สามคือ "1" สามารถเขียนเป็นเลขฐานสองได้เท่ากับ "00000001" เลขฐานสิบชุดสุดท้ายคือ "100" สามารถเขียนเป็นเลขฐานสองได้เท่ากับ "01100100" หมายเหตุ: การแปลงเลขกลับไปกลับมาระหว่างเลขฐานสองและฐานสิบ สามารถทำได้หลายวิธี เช่น ใช้โปรแกรม, ใช้การคำนวณด้วยตัวเอง เป็นต้น Class หรือกลุ่มของ IPv4 Address เราสามารถแบ่งประเภทของ IP Address ออกเป็น Class ได้ คือเป็น Class A, B, C, D, E (Class D = multicast addresses.
มาตรฐาน IP คือค่ามาตรฐานในการป้องกันของอุปกรณ์ไฟฟ้า โดย IP จะหมายถึงมาตรฐานการกันน้ำ และ IPX จะหมายถึงกันทั้งน้ำและฝุ่นเข้า โดยมีตัวเลข 2 หลักตั้งแต่ 0-8 บอกความหมายระดับที่สามารถป้องกันได้ เลขหลักเดียว เลข0x หมายถึง ไม่สามารถป้องกันของแข็งได้เลย เลข1x หมายถึง ป้องกันจากของแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่า 50mm ขึ้นไป เช่น มือ ฯลฯ เลข2X หมายถึง ป้องกันจากของแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่า 12mm ขึ้นไป เช่น นิ้วมือ ฯลฯ เลข3X หมายถึง ป้องกันจากของแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่า 2.
IP Address ( internet Protocal Address) คือ หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องในระบบเครือข่ายที่ใช้โปรโตคอลแบบ TCP/IP สามารถบอกได้ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งอยู่ที่ไหน ซึ่งสามารถระบุได้ผ่าน ip address และแน่นอนแต่ละ ip จะไม่ซ้ำกัน. เหมือนเลขที่บ้านที่ไม่ซ้ำกัน เพราะถ้าซ้ำการส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายก็อาจจะงงได้ว่าต้องส่งข้อมูลไปที่ไหนกันแน่ ซึ่ง ip address จะประกอบไปด้วยตัวเลข 4 ชุด โดยในปัจจุบันมาตรฐานของ ip address คือ IPv4 และ IPv6 โดย IPv4 จะเป็นเลข 32 บิต และ IPv6 เป็นเลข 128 บิต. โดยมีการแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ ✅Network Address หมายเลข IP สำหรับเครือข่าย จะถูกตั้งด้วย Router ✅Computer Address หมายเลข IP ประจำเครื่องในระบบเครือข่าย. แต่ถ้าเราจะแบ่ง IP address เป็นตาม class จะได้ดังนี้? Class A มีตัวเลข 0. 0. 0 ถึง 127. 255. 255 เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ มีผู้ใช้งานจำนวนมาก สามารถกำหนดเลข ip address ได้ถึง 16 ล้านหมายเลข? Class B มีตัวเลข 128. 0 ถึง 191. 255 เหมาะสำหรับองค์กรขนาดกลาง กำหนดเลขสำหรับผู้ใช้งานประมาณ 65, 000 หมายเลข? Class C มีตัวเลข 192. 0 ถึง 223. 255 เหมาะสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ภายในเครื่องข่ายได้จำนวนหมายเลข 254 หมายเลข?