bulibuli.work
ก็มีความคล้ายทรงไอวี ลีก และถือเป็นผมเกรียนในแบบฉบับชายชาติทหาร โดยมีต้นกำเนิดมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 จุดประสงค์ดั้งเดิมของการกร้อนผมให้เกรียนก็เพื่อสุขอนามัยที่ดีของทหารเรือ ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่จำกัดระหว่างสงคราม ทหารอเมริกันสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 กำลังตัดผมกลางแจ้งในเขตโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในประเทศฝรั่งเศส กลางเดือนพฤษภาคม ค. ศ. 1918 ผมทรงครูว์คัทมีลักษณะไถด้านข้างออกจนสั้นเตียน โดยสามารถเฟดไล่ระดับจากผมด้านบนลงมาด้านล่าง และไว้ผมด้านบนให้ยาวได้พอสมควร Photo: ส่วน แฟล็ท ท็อป (Flat Top) ก็เป็นแฟชั่นเก็บตกมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เช่นกัน โดยเป็นการเพิ่มลูกเล่นของผมด้านบนที่ไว้ให้สั้นหนา แล้วปาดเป็นแนวตรง หรือตัดให้สั้นรับกับผมด้านข้างและด้านหลัง จนดูเหมือนกับลานบิน เกรซ โจนส์ ผู้ทำให้ผมทรงลานบินเป็นที่รู้จักในยุค 80 Photo: และเมื่อทหารอเมริกันเข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศไทยตั้งแต่ พ. 2509 คนไทยในยุคนั้นจึงเรียกขานทรงผมของทหารจีไอทั้งหลาย ที่ไม่ได้ตัดผมสั้นเกรียนเหมือนทหารไทยในยุคนั้นว่า ทรงอเมริกันลานบิน ในช่วงเวลาไม่กี่ปีหลังจากนีี้ ประเทศไทยเองก็ได้รับเอาอิทธิพลของทรงผมและเครื่องแบบของทหารญี่ปุ่นที่ยาตราทัพเข้ามาเหยียบแผ่นดินไทยในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาเป็นเครื่องแบบของนักเรียนไทย โดยกระทรวงศึกษาธิการได้ออกกฎกระทรวงฉบับที่ 1 (พ.
ดูตัวอย่าง สินค้า เรตติ้ง ราคา Suavecito Pomade Firme (แข็งแรง) ถือ 4 ออนซ์ 8, 866 รีวิว $ 14. 85 ตรวจสอบใน Amazon TIGI หัวเตียงสำหรับผู้ชาย Matte Separation Workable Wax, 3 ออนซ์ 3, 995 รีวิว $ 12. 99 ตรวจสอบใน Amazon American Crew Forming Cream, 3 ออนซ์, Pliable Hold with Medium Shine 10, 445 รีวิว $ 18. 50 ตรวจสอบใน Amazon Baxter of California Clay Pomade, Matte Finish/Strong Hold, Hair Pomade for Men, 2 ชั้น ออนซ์ 3, 572 รีวิว $ 23. 00 ตรวจสอบใน Amazon แฮร์ เคลย์ สำหรับผู้ชาย | Smooth Viking Clay Pomade for Matte Finish & Strong Hold (2 ออนซ์) - ไม่เยิ้ม... 3, 481 รีวิว $ 13.
10 – Hair Style: Classic Undercut ทรง Undercut ไม่ว่ายังไงๆ ก็ยังเป็นทรงที่ต้องมาติดอยู่ในลิสต์ด้วยเสมอ เพราะเป็นทรงที่ไว้แล้วดูแลง่ายจริงๆ โดยจุดเด่นจะเป็นทรงผมเปิดข้างที่มีความสั้นเกรียน เรียบง่ายแต่ดูดีมีสไตล์ เหมาะกับทุกรูปหน้า ช่วยทำให้ใบหน้าของคุณมีมิติมากยิ่งขึ้น No. 11 – Hair Style: Textured Undercut ยังคงอยู่กับทรง Undercut เช่นเดิม แต่ในรอบนี้จะเป็น Textured Undercut ที่ด้านข้าง ด้านหลังผมก็ยังคงเหมือนเดิม แต่สิ่งที่แตกต่างคือผมด้านบนที่จะทำให้มี Texture อาจเป็นการซอยผมด้านบนกรณีที่เป็นคนขี้เกียจเซ็ต และแบบที่ใช้การเซ็ตผมเข้ามาช่วย ตามภาพเลย เหมาะสำหรับคนที่มีผมเส้นเล็ก ผมตรง ที่อยากให้ผมมีความเป็นริ้วๆ พลิ้วๆ แบบคนผมหยักศก No. 12 – Hair Style: Slick Back Undercut ยังคงอยู่กับทรง Undercut แต่จะปรับเปลี่ยนลูกเล่นด้านบนให้เป็นแบบ Slick Back มีจุดเด่นตรงการเซ็ตผมที่ง่ายมากๆ เพียงแค่ปาดเจลหรือโพเมดลงไปบนผมให้เรียบก็จะเกิดแป็นทรงนี้ขึ้น และผมด้านข้างจะเป็นแบบ Undercut ซึ่งจะทำให้ผมด้านข้างและด้านบนมองเห็นได้อย่างชัดเจน ตอบโจทย์หนุ่มๆ คนไหนก็ตามที่ขี้เกียจเซ็ตผมให้ยุ่งยากก่อนออกจากบ้าน ซึ่งแนะนำว่าเพื่อให้ผมทรงนี้ออกมาเพอร์เฟคต์ที่สุดต้องไว้ผมด้านบนให้ยาวประมาณ 4 -5 นิ้วเสียก่อน No.
3. Long Crew Cut หรือเรียกอีกอย่างว่าทรง "Short Crop" ผมสั้นติดหนังศีรษะที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเหล่าบรรดาทหาร ตัดจนสั้นเกรียนเหมือนทรงลานบิน หรือจะสั้นแบบพอประมาณก็แล้วแต่ความพอใจ โดยตัดด้านหลังและด้านข้างให้สั้น และให้ด้านบนยาวกว่าเล็กน้อย ให้นึกถึงทหารที่ตัดสกินเฮดแต่ปล่อยให้ยาวนิดนึงเป็นอันใช่เลย อีกหนึ่งทรงผมที่เราขอการันตีเลยว่าเย็นสบายมากสำหรับหน้าร้อนนี้ แถมยังคงความเท่ในแบบชายชาติทหารอีกด้วย ไม่ต้องเซตผมให้ยุ่งยาก เหมาะกับหนุ่มๆ ที่รักความสะดวกสบายเป็นชีวิตจิตใจ ลิงค์
สำหรับฤดูร้อนช่วง เมษายน-มิถุนายน อากาศประเทศไทยมักจะร้อนมาก ซึ่งหนุ่มๆ หลายคนมักจะเลือกตัดผมสั้นมากกว่าที่จะไว้ผมยาว เพราะบ้านเราไม่ใช่เมืองหนาวเหมือนประเทศอื่น ดังนั้นการที่จะเลือกตัดผมสั้นเป็นอีกทางหนึ่งที่นิยมกันมากเพราะมันดูดี แถมเซ็ทผมได้เทส์อีกด้วย และวันนี้เราได้มาแนะนำ ทรงผมชาย แนว Crew Cut เพราะมันมาสามารถเซ็ทผมได้ไม่ว่าจะเป็นคนที่ผมหยิก ผมงอ หรือตรง ไปดูกันเลย 1. The classic crew cut จัดว่าเป็นทรงผมออริจินัล มีความคาสสิคแบบดั้งเดิมเหมาะสำหรับหนุ่มๆ ที่ชอบไว้ผมสั้น โดยข้างบนจะปล่อยไว้ยาวกว่าด้านข้างและหลังนิดหน่อย เน้นผมด้านบนให้ยาวพอดีไม่มากเกินไปเหมือนกับหนุ่มนักธุรกิจเหมาะกับการแต่งตัวแนวใส่สูท ออกงานต่างๆ และสบายหัว ไม่รุงรังอีกด้วย 2. The textured crew cut ทรงนี้จะเน้นเท็กซ์เจอร์ส่วนข้างบน แต่ส่วนข้างหลังกับด้านข้างจะตัดเท่ากัน เน้นใช้กรรไกรตัดผมข้างบน ซึ่งการตัดผมทรงนี้จะเหมาะกับหนุ่มๆ ที่ทีผมหยิกหรือหยักศก เพราะสามาถเซ็ทผมได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรมากมาย แต่ถ้าหากใครผมตรงก็สามารถตัดได้โดยใช้สเปรย์ Sea Salt ฉีดและจัดทรง 3. The crew cut fade อีกหนึ่งทรงผมที่ดารานักแสดงเมืองเนอกชอบตัดกัน อย่าง David Beckham, Zac Efron, Tom Hardy และอีกหลายคน ลักษณะของทรงผมคือ ไว้ผมด้านบนให้ยาวนิดหน่อย และด้านข้างกับด้านหลังจะใช้การเฟดแต่ตัดให้มีความยาวเท่ากัน ทรงนี้ถ้าตัดออกมาจะดูเรียบๆ แต่มองแล้วมีสไตล์หรูหราสุดๆ เหมาะกับหนุ่มๆ ออฟฟิต ใส่สูทมาก และทั้งหมดนี้ก็คือการตัดผมแนว Crew cut สไตล์ฝรั่ง ถ้าใครชอบทรงไหนก็รองไปบอกช่างตัดผมได้เลยซึ่งที่จริงไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูร้อน หรือฤดูหนาว ก็สามารถตัดได้แล้วแต่คุณชอบเลย และประเทศไทยบ้านเราก็ได้รับกระแสนิยมทรงผม Crew cut กันมากเลยทีเดียว รับรองว่าเทส์ ดูดี มีสไตล์ แน่นอน