bulibuli.work
Half-truth (ฮ้าฟ ทรูท): เรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้าง I don't care! half-truth is a whole lie (ฉันไม่สนใจหรอก เรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้างก็คือเรื่องโกหกนั่นแหละ) 18. Humbug (ฮัม บั๊ก): การหลอกลวง ต้มตุ๋ม Don't try and humbug me, tell me everything (อย่าแม้แต่จะลองหลอกฉัน บอกฉันมาให้หมดเดี๋ยวนี้) 19. Invention (อิน เว้น เชิ่น): การกุเรื่องขึ้น เรื่องที่กุขึ้น Her story is a total invention (เรื่องของเธอน่ะมันเป็นเรื่องที่กุขึ้นทั้งหมด) 20. Jive (ไจ้ฟ์): หลอก เรื่องเหลวไหล Quit jiving me and just tell me where you were! (เลิกหลอกฉันได้แล้ว แค่บอกมาซะทีว่าเธออยู่ไหน! ) 21. Libel (ไล้ เบิ้ล): ใส่ร้ายป้ายสี She threatened to sue that guy for libel (เธอขู่ว่าจะฟ้องผู้ชายคนนั้นข้อหาใส่ร้ายเธอ) 22. Mendacity (เมน แด ซิ ติ): การโกหก You need to overcome this mendacity, or no one will ever believe anything you say (คุณต้องเอาชนะการโกหกนี่ให้ได้ ไม่อย่างนั้นจะไม่มีใครเชื่อที่คุณพูดอีกเลย) 23. Slander: คำพูดให้ร้าย ใส่ร้าย She regarded his comment as a slander on her good reputation (หล่อนถือว่าคอมเม้นท์ของเขาเป็นคำพูดให้ร้ายต่อชื่อเสียงของเธอ) 24.
หากแฟนหนุ่มของคุณทำอะไรบางอย่างที่เขารู้ว่าคุณจะต้องโกรธแน่ๆ เขาอาจเลือกที่จะพูดโกหกกับคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้เพื่อเลี่ยงไม่ให้คุณทั้งสองคนทะเลาะกัน นั่นอาจเป็นเพราะว่าเขาไม่ชอบความขัดแย้งหรือเพียงไม่รู้ว่าจะจัดการกับอารมณ์เชิงลบอย่างไร คุณสามารถพูดคุยกับเขาได้โดยอาจพูดกับเขาว่า: [4] "ฉันอยากให้คุณซื่อสัตย์กับฉันในทุกเรื่องแม้คุณจะรู้ว่าฉันอาจจะโกรธก็ตาม คุณก็รู้ว่าความสัมพันธ์ของเราสองคนคงอยู่ได้ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจ แต่ฉันกลับรู้สึกว่าตอนนี้ฉันไม่สามารถเชื่อใจคุณได้เลย" คู่รักในความสัมพันธ์ที่ดีจะอนุญาตให้ต่างฝ่ายต่างมีพื้นที่ส่วนตัว.
"ทำเป็นแกล้งโง่ไปได้ เรื่องที่นายพูดเมื่อกี้…พวกเราต่างก็รู้ดี" หัวหน้าทีมชั่วคราวยังคงพูดเสียงเบาต่อไป เสี่ยวพานกลับร้อง "อ้อ" แล้วบอกว่า "นายเข้าใจผิดแล้ว สำหรับฉัน วิธีปิดบังที่ดีที่สุดคือการทำเหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้น เพราะทุกคำโกหกล้วนมีช่องโหว่ ยิ่งพูดมาก ก็ยิ่งมีจุดผิดพลาดเยอะ วิธีที่ดีที่สุด คือการยกความจริงอีกอย่างหนึ่งขึ้นมากลบเกลื่อน หรือจะเรียกว่าการเบี่ยงเบนความสนใจก็ได้…เพียงแต่ระหว่างที่ฉันเล่าเรื่อง ฉันเลือกใช้วิธีเล่าที่น่าจะทำให้คนฟังเชื่อมากขึ้น นั่นก็คือการเล่าสิ่งที่ฉันเห็นทั้งหมดด้วยน้ำเสียงเหมือนคนที่ประสบเหตุการณ์ด้วยตัวเองไงล่ะ…" "หยุดก่อน! " หัวหน้าทีมชั่วคราวเบิกตากว้าง แล้วถามอย่างตะลึงว่า "นายหมายความว่า…สิ่งที่นายพูดเป็นความจริงทั้งหมด? " เสี่ยวพานมองหน้าเขาอย่างแปลกใจ แล้วย้อนถามว่า "หรือนายดูไม่ออก? " "…" หัวหน้าทีมชั่วคราวอึ้งสนิท เขาไม่ใช่แค่ดูไม่ออก แต่เขาไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ! "ช่างร้ายกาจนัก!! " —————————————————————————– จบภาค 2
ตามหัวข้อนะคะ แฟนเราโกหกที่บ้านตลอดเวลาไปเที่ยวกับเรา หรือมาหาเรา จะบอกว่าไปกับเพื่อน บ้างหรือเวลาเค้าไปรับเรามาอยู่ด้วย ก็จะบอกที่บ้านว่า เรานั่งรถมาเอง ต้องบอกก่อนว่าที่บ้านเค้าค่อนข้างไม่ชอบเรา แบบนี้คือปกติดีไหมคะ เราควรคิดมากไหม ซึ่งจริงๆตอนนี้ก็คิดมาก มากๆเลยค่ะ แสดงความคิดเห็น
ถ้าคุณเคยบ่นเกี่ยวกับพฤติกรรมของแฟนมาก่อน คุณอาจจะรู้สึกว่าคุณมีส่วนผิดที่เขาต้องปกปิดพฤติกรรมหรือนิสัยที่ไม่ดีแต่คุณต้องจำไว้ว่าคุณต้องไม่โทษตัวเองจากคำโกหกของแฟน แฟนของคุณต้องรับผิดชอบต่อพฤติกรรมของเขา ส่วนหนึ่งของการเป็นผู้ใหญ่ในความสัมพันธ์ที่มีภูมิฐานคือการที่เราพร้อมรับความรับผิดชอบจากการกระทำของตัวเอง แฟนของคุณต้องโทษตัวเองสำหรับคำโกหกและคุณไม่ควรรู้สึกว่าคุณต้องรับผิดชอบทางเลือกของเขา ไม่มีใครถูกบังคับให้โกหก มันคือสิ่งที่พวกเขาเลือกและเป็นความรับผิดชอบในการน้อมรับคำโกหก คุณต้องจดจำสิ่งนี้ในขณะที่คุณรับมือกับคำโกหกของแฟน พิจารณาบริบทที่อยู่รอบคำโกหกของเขา.
ห้ามตัดสายหรือเดินหนีขณะอีกฝ่ายยังพูดไม่จบ ถือเป็นการกระทำที่คนรักไม่ควรทำต่อกันเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นการไม่ให้เกียรติกันเลย 8. ห้ามลืมวันสำคัญของกันและกัน วันสำคัญควรจะจดจำมันให้ได้ เพราะนั่นแสดงถึงความใส่ใจในความรักของเราสองคน 9. ห้ามทิ้งกันในวันที่ลำบาก เมื่อถึงเวลาที่ลำบาก ก็ต้องยืนยันที่จะอยู่ด้วยกัน ไม่คิดทิ้งกันไปหาความสุขสบายข้างหน้า ดั่งคำกล่าวที่ว่า มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน ยังไงล่ะ เป็นยังไงกันบ้าง คิดจะเป็นแฟนกันน่ะ ทำตามกฎนี้ได้ครบมั้ย ถ้าไม่ครบก็เชิญประตูถัดไป แต่ถ้าทำได้ก็เข้ามาเล้ยยย บทความแนะนำ